งานชิ้นที่ 2


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ที่มา:http://thyjey.blogspot.com/

ในฐานะที่เป็นวิชาชีครู  (ปฐมวัย)


                 Sender คือ ผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร คือครูเป็นผู้ส่งสาร ปัจจัยที่จะทำให้การสื่อสารนั้น ประสิทธิภาพ ซึ่งในแต่ละองค์ประกอบ จะมี 5 ประการย่อยๆที่คอยควบคุมอยู่ ขอเน้นไปที่ ผู้ส่งสารและผู้รับสาร จะอยู่ภายใต้ 
                ทักษะการสื่อสาร  เด็ฏปฐมวัยเป็นเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิด 0-5 ปี 11 เดือน 29 วัน ครูจะต้องเข้าใจเด็ก ต้องรู้จักการสื่อสารของเด็ก จะต้องมี ทัศนคติที่ดีต่อเด็ก มีความรัก ความเข้าใจ เอื้อทาทร รักเด็กให้เท่าเทียมกัน และครูจะต้องมี ความรู้ที่หนักแน่นในเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเล็กไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การรับรู้ การเป็นอยู่ของเด็ก เป็นต้น นอกจากนี้ครูจะมีความรู้ในเรื่องของประเพณีวัฒนธรรมที่จะสามารถนำไปถ่ายทอดความรู้  และเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์รักษาประเพณีวัฒนธรรมที่ดีให้กับเด็ก  รวมถึงการอยู่ร่วมกันให้เป็นระบบสังคม ด้วยความรัก ความช่วยเหลือสามัคคีต่อชุมชน  สังคม ที่ตนอาสัยอยู่ มีความร่วมมือต่อส่วนรวม ปฏิบัติตามกฎของชุมชน สังคม นั้นๆ เป็นต้น

                    Messege คือ ข้อความหรือเนื้อหาที่ครูผ้สอนจะนำไปสอนให้กับผู้เรียน เป็นการถอดรหัสความรู้ที่จะส่งไปทางช่องทางการสื่อสารกับเด็ก 
                        วิชาหรือกิจกรรมที่ครูผู้สอนจะนำไปใช้กับเด็กจะต้องมีความเหมาะตามช่วงอายุของเด็ก และนำหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยมาใช้สำหรับการสอน  ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวิชาหรือการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก  ครูผู้จะต้องมีการเตรียมเนื้อหาที่จะนำมาใช้สำหรับการสอนมีการวางแผนในการสอน เนื้อหา จะต้องเป็นสารที่เหมาะสมกับเด็กช่วงอายุนั้น และในเนื้อหาจะต้องมีองค์ประกอบของเนื้อหาที่จะใช้สอนหรือการทำกิจกกรม  มีการกำหนดวัตถุประสงค์ มีโครงสร้างของรูปแแบการสอน มีการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก มีการตีคาวม เป็นต้น
             Channel คือ ช่องทางการสื่อสาร ในวิชาหรือกิจกรรมที่ครูผู้สอนเตียมไว้จะต้องมีความสอดคล้องกับการสัมผัสประสาททั้งห้าและการพํฒนาการ 4 ด้านของเด็ก 
ประสาทสัมผัสทั้ง คือ
      การเห็น (ตา) ให้รู้จักกการสังเกตุ เช่นการแยกสี  การเปรียบเทียบชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ เป็นต้น
      การได้ยิน (หู) เช่น ฟังเพลง  ฟังเสียงนกร้อง ฟังเสียงตีระฆัง  เป็นต้น
      การได้กลิ่น (จมูก) เช่น กลิ่นหมอ  กลิ่นเหม็น กลิ่นส้ม เป็นต้น
      การสัมผัส (ผิว) การจับ การหยิบ
      การชิม (ลิ้น) รสหวาน รสเค็ม รสข่ม เป็นต้น
พัฒนาการ 4 ด้าน 
      ด้านรร่างกาย   การเคลื่อนร่างกาย เช่น  การเต้น วิ่ง เดิน เป็นต้น
      ด้านอารมณ์-จิตใจ  เช่น ยิ้ม หัวเราะ เศร้า ดีใจ เป็นต้น
      ด้านสังคม  เช่น การแบ่งของเล่นให้เพื่อน การช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียน
      ด้านสติปํญญา  การใช้ความคิด  การจินตนาการ  เป็นต้น

        Receiver คือ ผู้รับสาร  ในที่นี้คือตัวผู้เรียน ทั้งหมดที่ครูผู้สอนเตีรยมแผนการสอนมานี่เพื่อที่จะให้เด็กเกิดทักษะการสื่อสาร ทํศนคติที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น ความรู้ การอยู่อย่างเป็นระบบสังคมและเพื่อปลูกฝังให้เด็กเกิดการอนุรักษ์วัฒนะรรม เป็นต้น






ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แฟ้มสะสมงาน